คลัีงเก็บรายวัน: 4 กันยายน 2024

รวยด้วย Affiliate โพสต์สินค้ารับรายได้จากเว็บดัง

Affiliate (แอฟฟิลิเอท) เป็นการทำการตลาดให้กับเว็บไซต์ขายสินค้าและบริการ เรียกง่าย ๆ คือ เราทำหน้าที่เป็นนายหน้าขายสินค้าออนไลน์นั่นเอง โดยนำลิงก์ไปโปรโมทผ่านช่องทางต่าง ๆ เมื่อลูกค้าซื้อสินค้าผ่านลิงก์ของเรา ก็จะได้รับส่วนแบ่งเป็นค่าคอมมิชชั่น ซึ่งลิงก์นั้นได้แฝงรหัสประจำตัวของเราเอาไว้ โดยเราไม่จำเป็นต้องส่งสินค้า หรือสต็อคสินค้าเอาไว้เอง เพราะหน้าที่ทั้งหมดเป็นของบริษัทเจ้าของสินค้า ซึ่งเทคนิคการหารายได้นี้กำลังเป็นที่นิยมในต่างประเทศ

Affiliate เป็นระบบการตลาดแบบพันธมิตร ที่เว็บไซต์ขายสินค้าดัง ๆ ใช้เพื่อเพิ่มยอดขาย โดยเปิดโอกาสให้บุคคลทั่วไปสามารถเข้าร่วมโครงการได้ อาทิ Amazon, Lazada, Shopee, Advice, Power Buy, Officemate และอื่น ๆ โดยจะมอบผลตอบแทนเป็นรายได้เมื่อมีการสั่งซื้อสินค้าเกิดขึ้น และเว็บไซต์ส่วนใหญ่มักเก็บประวัติการคลิกลิงก์ไว้ประมาณ 30 วัน ภายในระยะเวลาดังกล่าว เราจะยังได้รับค่าคอมมิชชั่นไม่ว่าลูกค้าจะกดสั่งซื้อสินค้าชนิดไหน ในช่วงเวลาใดก็ตาม

นอกจากสินค้าและบริการแล้วก็ยังมีผลิตภัณฑ์ประเภทอื่น ๆ ที่เข้าร่วม Affiliate เช่น บัตรเครดิต สินเชื่อ ประกัน อสังหาริมทรัพย์ โรงแรม ตั๋วเครื่องบิน และอื่น ๆ เราสามารถเลือกโปรโมทอย่างใดอย่างหนึ่ง หรือจะเลือกโปรโมททั้งหมดเลยก็ได้

เริ่มต้นทำ Affiliate ต้องใช้เงินทุนเท่าไหร่?
แทบไม่ต้องใช้เงินแม้แต่บาทเดียว เพียงแค่เรามีไอเดีย และช่องทางที่ผู้คนสามารถเข้าถึงได้ง่าย ก็สามารถทำ Affiliate ได้แล้ว เดี๋ยวนี้มีแพลตฟอร์ม ให้ใช้งานได้ฟรี ๆ อาทิ Blogspot และ WordPress หรือสื่อสังคมออนไลน์อย่าง Facebook หากต้องการเช่าโฮสติ้งเพื่อสร้างเว็บไซต์ให้เป็นเรื่องเป็นราว ก็สามารถทำได้

เราสามารถทำ Affiliate ได้ทุกที่ ทุกเวลา จะทำเป็นอาชีพเสริม หรืออาชีพหลักก็ได้ ขอแค่มีความขยัน พยายาม และอดทน จริงอยู่ที่ผู้เริ่มต้นอาจจะไม่ประสบความสำเร็จในช่วงแรก แต่พอทำไปสักพักด้วยความไม่ย่อท้อ ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นอาจทำให้ใครหลายคนพอลืมตาอ้าปากได้ หรือมีรายได้เป็นกอบเป็นกำไปเลยก็มี

ทํา Youtube ได้เงินเท่าไหร่ มีคำตอบ!!

หลายคนคงอยากรู้ว่า เหล่าบรรดา Youtuber (ยูทิวป์เบอร์ คำที่ใช้เรียกคนทำคลิปลงยูทิวป์ทั้งหลาย) มีรายได้จากการทำคลิปลงยูทิวป์จริงหรือไม่? วันนี้จะมาตอบในฐานะของคนที่เคยทำ Youtube มาก่อน

จากที่เคยเข้าไปคลุกคลีอยู่กับการทำคลิปลง Youtube อยู่ช่วงนึง ขอบอกตรง ๆ แบบไม่โกหกเลยครับ ว่าการอัพโหลดวิดีโอลงยูทิวป์ทำให้เกิดรายได้ ได้จริง ๆ ซึ่งถ้าคุณทำมันอย่างจริงจังและทำอย่างถูกทาง คุณสามารถทำเงินได้เป็นกอบเป็นกำ เดี๋ยวจะอธิบายว่าทำไมถึงมีรายได้ แล้วรายได้มาจากไหน และถ้าอยากมีรายได้เยอะ ๆ ต้องทำคลิปประเภทไหน

ทำไมถึงใช้คำว่า “เคยทำ Youtube มาก่อน”
ย้อนกลับไปเมื่อ 3 ปีที่แล้ว ผมเคยได้มีโอกาสทำคลิปลงยูทิวป์เล่น ๆ กับเพื่อน ซึ่งตอนนั้นก็ไม่คิดว่าจะทำจริงจังอะไรมากมาย คือก่ะทำเล่น ๆ แหละ ด้วยความอยากรู้อยากลองด้วย โดยคลิปแรกที่อัพโหลดลงไปในยูทิวป์ เป็นคลิปที่จับกระแสในช่วงนั้นมาเล่น “น้องล่า เหนียวไก่หาย” ถ้าทุกคนยังจำได้ ผมเป็น 1 ในคนที่หยิบกระแสนี้มาเล่น ทำให้วิดีโอที่ผมอัพโหลดลงไปมียอดวิวรวมจนถึงปัจจุบัน รวม ๆ แล้วกว่า 4 แสนวิว!!

วิดีโอยอดวิว 4 แสนวิว ได้เงินจาก Youtube กี่บาทกันนะ?
ตอบ ประมาณ 2,500-3,000 บาทครับ ซึ่งแต่ละคนจะได้ไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับผู้ชมคลิปของเราด้วยว่ากดข้ามโฆษณาหรือเปล่า หรือโฆษณาแสดงขึ้นมาหรือไม่ ซึ่งรายได้ตรงนี้จะได้ไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะมีคนเลิกดูวิดีโอจากช่องของเรา แบบนี้เรียกพาสซิฟอินคัม (รายได้ที่เข้ามาในขณะที่เราอยู่เฉย ๆ) ได้เลยนะเนี่ย ทีนี้ให้เราลองจินตนาการถึงคนที่มียอดวิวเกิน 1 ล้านวิวต่อคลิป และทำเดือนนึงเป็นสิบ ๆ คลิป รายได้เดือนนึงรวม ๆ แล้วได้เท่าไหร่ ลองคำนวณกันดูครับ

รายได้มาจากไหน ใครเป็นคนจ่ายให้เรา แล้วจ่ายยังไง?
เคยเห็นคำว่า “ข้ามโฆษณา” หรือคำว่า “Skip” ที่ปรากฎก่อนชมคลิปกันบ้างไหม นี่แหละคือรายได้ของเหล่าคนทำยูทิวป์ทั้งหลาย ทุก ๆ ครั้งที่คุณกดปุ่มข้ามโฆษณาไป เจ้าของช่องจะไม่ได้รับรายได้ แต่ถ้าคุณดูโฆษณาเกิน 5 วินาที หรือดูจนจบ เจ้าของช่องก็จะได้รับส่วนแบ่งค่าโฆษณาจากโฆษณาตัวนั้น ซึ่งผู้ลงโฆษณาจะจ่ายเงินไปให้ทางยูทิวป์ (ในฐานะเจ้าของแพลตฟอร์ม) และยูทิวป์จะแบ่งเงินมาให้เราอีกที (ในฐานะคนทำคอนเทนท์) ซึ่งกี่เปอร์เซนต์นั้นผมก็ไม่ค่อยแน่ใจเหมือนกัน

นอกจากนี้ยังมีป้ายโฆษณาที่ปรากฎอยู่ข้างตัวเล่นวิดีโอ และโฆษณาป้ายสี่เหลี่ยมยาว ๆ ที่ปรากฎในขณะดูคลิป ก็สามารถเป็นรายได้ ได้ด้วยนะครับ

ทำไมยูทิวป์ถึงต้องแบ่งค่าโฆษณาให้คนเจ้าของช่องด้วย?
ถ้าจะให้หยิบยกสุภาษิตไทยมาสัก 1 สุภาษิต คงหนีไม่พ้น “น้ำพึ่งเรือเสือพึ่งป่า” การที่เม็ดเงินจากผู้ประกอบการธุรกิจจะไหลเข้ามาอย่างมหาศาลได้นั้น คอนเทนท์ในยูทิวป์จะต้องมีคุณภาพเสียก่อน ถ้าคนทำคลิป ทำคลิปลงยูทิวป์แล้วไม่ได้อะไรก็คงไม่มีใครอยากทำ จริงมั๊ย? เรียกได้ว่าได้ประโยชน์กันทั้งสองฝ่าย เรามีหน้าที่ทำคลิปวิดีโอให้มีคุณภาพ ส่วนยูทิวป์ก็มีหน้าที่สนับสนุนคนทำคลิปอย่างเรา ๆ นั่นเอง

นอกจากรายได้ที่มาจากยูทิวป์โดยตรงแล้ว สามารถมีรายได้จากทางอื่นได้อีกไหม?
เมื่อเราทำช่องไปแล้วมีผู้ติดตามประมาณหนึ่ง จะเริ่มมีสปอนเซอร์เข้ามาสนับสนุนช่องในรูปแบบการโปรโมทสินค้าและบริการ ซึ่งทางสปอนเซอร์จะติดต่อเราโดยตรง ถ้าผู้ติดตามช่องของเราส่วนใหญ่เป็นกลุ่มเด็ก มีโอกาสที่สปอนเซอร์ประเภทสินค้าเด็กจะเข้ามาสนับสนุนช่อง เอาเป็นว่าอยากได้สปอนเซอร์กลุ่มไหน ก็ให้ทำคลิปในกลุ่มนั้น ซึ่งใครทำคอนเทนท์เกี่ยวกับเด็ก มีโอกาสที่ยอดวิวจะพุ่งขึ้นเร็วมากครับ ขอบอก ๆ

4 วิธีสมัครบัตรเครดิตให้ผ่าน

การสมัครบัตรเครดิตอาจดูเป็นเรื่องยากสำหรับหลายคน แต่หากรู้เคล็ดลับและปฏิบัติตามขั้นตอนที่ถูกต้อง ก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป นี่คือขั้นตอนสำคัญที่ช่วยให้การสมัครบัตรเครดิตของคุณเป็นไปอย่างราบรื่นและประสบผลสำเร็จ

1. ตรวจสอบเงื่อนไขของธนาคาร

แต่ละธนาคารมีเงื่อนไขที่เฉพาะเจาะจงสำหรับการสมัครบัตรเครดิต ดังนั้นควรตรวจสอบคุณสมบัติที่ธนาคารกำหนด เช่น อายุ, ระยะเวลาการทำงาน, และฐานเงินเดือนขั้นต่ำ ซึ่งธนาคารจะพิจารณาความมั่นคงทางการเงินของผู้สมัครเป็นหลัก หากคุณเป็นพนักงานประจำ โอกาสผ่านการอนุมัติมักจะสูงกว่า เนื่องจากมีรายได้ที่มั่นคง สำหรับเจ้าของธุรกิจหรือฟรีแลนซ์ การมีการเดินบัญชีที่ชัดเจนและต่อเนื่องเป็นเวลา 6 เดือนขึ้นไป ก็ช่วยเพิ่มโอกาสในการสมัครบัตรเครดิตให้ผ่านได้เช่นกัน

2. ตรวจสอบประวัติเครดิตบูโร

การตรวจสอบประวัติทางการเงินกับสถาบันเครดิตบูโรเป็นขั้นตอนสำคัญในการสมัครบัตรเครดิต ประวัติที่ดีจะแสดงให้เห็นว่าคุณมีการชำระหนี้ตรงเวลาและไม่มีหนี้ค้างชำระที่มากเกินไป ช่วยเพิ่มโอกาสในการอนุมัติบัตรเครดิต หากคุณไม่มีประวัติการติดบูโรเลย ยิ่งช่วยเพิ่มโอกาสในการได้รับการอนุมัติ ดังนั้นการตรวจสอบและทำความเข้าใจสถานะเครดิตของตนเองก่อนสมัครจะช่วยให้คุณเตรียมตัวได้ดีขึ้น

3. กรอกข้อมูลให้ถูกต้องและครบถ้วน

การกรอกข้อมูลในการสมัครบัตรเครดิตเป็นขั้นตอนที่สำคัญมาก ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าข้อมูลที่กรอกมีความถูกต้องและครบถ้วน หากพบข้อผิดพลาดในการกรอกข้อมูล ควรทำการกรอกใหม่เพื่อหลีกเลี่ยงความสับสน เจ้าหน้าที่จะไม่สามารถติดต่อหากข้อมูลติดต่อไม่ถูกต้อง ซึ่งอาจทำให้ขั้นตอนการพิจารณาล่าช้าหรือถูกปฏิเสธ

4. เตรียมเอกสารให้พร้อม

ก่อนยื่นสมัครบัตรเครดิต ควรตรวจสอบรายการเอกสารที่ธนาคารต้องการอย่างรอบคอบ เช่น สำเนาบัตรประชาชน, หนังสือรับรองรายได้, สลิปเงินเดือน, และ Statement เอกสารที่ครบถ้วนและถูกต้องจะช่วยให้กระบวนการอนุมัติรวดเร็วขึ้น เพราะไม่ต้องมีการขอเอกสารเพิ่มเติม

การสมัครบัตรเครดิตไม่จำเป็นต้องยุ่งยากอย่างที่คิด เพียงปฏิบัติตามขั้นตอนเหล่านี้อย่างครบถ้วน ก็จะเพิ่มโอกาสในการได้รับการอนุมัติได้อย่างมาก